พอพูดถึง OnlyFans หลายคนมักจะนึกถึงแพลตฟอร์มสายผู้ใหญ่เป็นอย่างแรก แต่ในความเป็นจริง แพลตฟอร์มคอนเทนต์แบบสมัครสมาชิกนี้กำลังถูกใช้โดยครีเอเตอร์ทั่วไปมากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับการขายความรู้ การแบ่งปันทักษะ และการเปลี่ยนคอนเทนต์เชิงวิชาชีพให้เป็นรายได้ ถ้าคุณเป็นเทรนเนอร์ฟิตเนส ศิลปิน ช่างภาพ หรือผู้เชี่ยวชาญในสายงานใดก็ตาม OnlyFans อาจกลายเป็นตัวเลือกใหม่ในการสร้างรายได้ประจำให้คุณได้
แม้ OnlyFans จะเป็นที่รู้จักในฐานะแพลตฟอร์มคอนเทนต์สำหรับผู้ใหญ่ แต่ตัวแพลตฟอร์มเองไม่ได้จำกัดประเภทคอนเทนต์ (ยกเว้นสิ่งผิดกฎหมาย) ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสายอาชีพเริ่มสร้างธุรกิจสมาชิกที่ประสบความสำเร็จบนที่นี่แล้ว เช่น
นักสู้มืออาชีพอย่าง Ryan Kim Kefar ใช้แพลตฟอร์มนี้แชร์เทคนิคการฝึกซ้อม แผนโภชนาการ และวิดีโอการซ้อมจริง โดยไม่มีคอนเทนต์ 18+ เลย แต่กลับดึงดูดผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายให้ยอมจ่ายค่าสมาชิกจำนวนมาก โมเดลนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า แค่คุณมีทักษะวิชาชีพหรือคอนเทนต์ที่ไม่เหมือนใคร ก็สามารถเจอกลุ่มคนที่พร้อมจ่ายเงินบน OnlyFans ได้
ด้วยโมเดลสมัครสมาชิก OnlyFans จึงเหมาะมากกับการทำเงินจากคอนเทนต์เชิงลึก แตกต่างจาก Instagram หรือ YouTube ที่รายได้พึ่งพาโฆษณาและอัลกอริทึม OnlyFans ทำให้ครีเอเตอร์รับเงินจากแฟน ๆ ได้โดยตรง ไม่ต้องกังวลเรื่องอัลกอริทึมเปลี่ยน
เกณฑ์ความสำเร็จบน OnlyFans ไม่ได้สูงอย่างที่หลายคนคิด คุณไม่จำเป็นต้องมีผู้ติดตามหลักล้าน แค่มีคนจำนวนน้อยที่ยอมจ่ายเงินเพื่อคอนเทนต์เชิงวิชาชีพของคุณก็พอแล้ว ระบบสมัครสมาชิกทำให้รายได้ค่อนข้างคาดเดาได้—แม้คุณมีแค่ 50 คน ที่จ่ายเดือนละ 10 ดอลลาร์ คุณก็มีรายได้ประจำ 500 ดอลลาร์ต่อเดือนแล้ว
ที่สำคัญ แพลตฟอร์มจัดการเรื่องระบบจ่ายเงิน โฮสต์คอนเทนต์ และระบบสมาชิกให้เรียบร้อย คุณแค่โฟกัสที่การสร้างคอนเทนต์คุณภาพ ไม่ต้องปวดหัวเรื่องทำเว็บไซต์หรือระบบรับชำระเงิน สำหรับคนที่อยากเริ่มทำ “คอนเทนต์แบบเสียเงิน” แต่ไม่ถนัดด้านเทคนิค นี่ถือเป็นโซลูชันสำเร็จรูปที่พร้อมใช้งาน
เข้าไปที่ เว็บไซต์ OnlyFans จากนั้นกดปุ่ม "Sign up for OnlyFans" ขั้นตอนสมัครง่ายมาก ใช้แค่ชื่อ อีเมล และรหัสผ่าน ก็สร้างบัญชีได้แล้ว ทั้งกระบวนการไม่เกินสองนาที
หลังสมัคร ระบบจะให้คุณกรอกข้อมูลโปรไฟล์เพิ่มเติม ขั้นตอนนี้แม้ไม่บังคับ แต่สำคัญมากต่อการทำธุรกิจในภายหลัง โปรไฟล์ที่ครบถ้วนจะช่วยให้คนที่กำลังจะสมัครสมาชิกเข้าใจคุณมากขึ้น และตัดสินใจจ่ายเงินง่ายขึ้น
เนื่องจากบนแพลตฟอร์มมีคอนเทนต์สำหรับผู้ใหญ่ OnlyFans จึงกำหนดให้ผู้ใช้ทุกคนต้องมีอายุอย่างน้อย 18 ปี ตอนสมัครคุณต้องเลือกประเทศและยืนยันอายุ
ส่วนสำคัญกว่าคือขั้นตอนยืนยันตัวตน ถ้าคุณต้องการโพสต์คอนเทนต์และรับเงิน คุณต้องอัปโหลดบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตที่รัฐบาลออกให้เพื่อยืนยันตัวตน ขั้นตอนตรวจสอบมักใช้เวลา 24–48 ชั่วโมง ระหว่างนี้คุณเข้าไปดูคอนเทนต์ได้ แต่ยังโพสต์อะไรไม่ได้
แม้กระบวนการนี้จะดูยุ่งยาก แต่ช่วยปกป้องความปลอดภัยของครีเอเตอร์และแพลตฟอร์ม และทำให้ผู้ใช้รู้สึกมั่นใจมากขึ้นเวลาเสียเงินสมัคร
โปรไฟล์ที่สมบูรณ์คือด่านแรกในการดึงดูดสมาชิก ไปที่หน้า "Edit Profile" และตรวจให้แน่ใจว่าคุณตั้งค่าต่อไปนี้ครบ:
รูปโปรไฟล์และภาพปก: ใช้รูปที่ชัดเจน ดูเป็นมืออาชีพ หลีกเลี่ยงรูปเซลฟี่เบลอ ๆ ถ้าคุณเป็นเทรนเนอร์ฟิตเนส ใช้รูปตอนฝึกหรือในยิม ถ้าเป็นศิลปิน ใช้ภาพผลงานตัวอย่าง
ข้อมูลแนะนำตัว: ใช้ภาษาเรียบง่ายแต่ชัดเจน อธิบายว่าคุณจะให้คอนเทนต์อะไร และทำไมถึงคุ้มค่าที่จะจ่าย เช่น
"โค้ชสาย MMA มืออาชีพ แชร์ประสบการณ์ 10 ปี แผนโภชนาการรายสัปดาห์ และวิดีโอการฝึกเฉพาะทาง"
มีพลังและขายได้ดีกว่า "ยินดีต้อนรับสู่หน้า OnlyFans ของฉัน"
ลิงก์โซเชียลมีเดีย: ผูกกับ Instagram, Twitter หรือ Spotify เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ถ้าคุณมีฐานผู้ติดตามจากแพลตฟอร์มอื่นอยู่แล้ว ยิ่งช่วยสร้างความไว้วางใจได้เร็ว
โปรไฟล์ยิ่งครบ อัตราการสมัครสมาชิกยิ่งสูง ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะเช็กข้อมูลคุณละเอียดก่อนจ่ายเงิน หากข้อมูลหายไปหรือดูว่างเปล่า มักทำให้เขาลังเล

โมเดลหลักของ OnlyFans คือระบบสมัครสมาชิกแบบรายเดือน คุณสามารถตั้งให้สมัครฟรี (เพื่อดึงคนเข้ามาติดตาม) หรือให้สมัครแบบเสียเงิน (เพื่อทำรายได้โดยตรง) ครีเอเตอร์ที่ประสบความสำเร็จจำนวนมากใช้กลยุทธ์ผสม คือเปิดให้กดติดตามฟรี แต่เก็บเงินสำหรับคอนเทนต์หลักบางส่วน
ค่ารายเดือนควรตั้งตามมูลค่าคอนเทนต์และกลุ่มเป้าหมาย คอนเทนต์สายฟิตเนสพบได้บ่อยที่ 5–20 ดอลลาร์ต่อเดือน ส่วนการสอนทักษะวิชาชีพบางอย่างอาจไปถึง 50 ดอลลาร์ขึ้นไป สิ่งสำคัญคือทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่า "คุ้มกับเงิน" แล้วเขาจะสมัครเอง—เขาได้อะไรที่ที่อื่นให้ไม่ได้?
แม้คุณจะเปิดให้ติดตามฟรี ก็สามารถทำเงินจากโพสต์ที่เสียเงินเป็นครั้ง ๆ ได้ โมเดลนี้เหมาะสำหรับคอนเทนต์เชิงลึกเป็นพิเศษ ทรัพยากรพิเศษ หรือเนื้อหาจำนวนจำกัด
เช่น คุณอาจแจกความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฟิตเนสฟรี แต่ตั้ง "โปรแกรมฝึก 12 สัปดาห์ฉบับเต็ม" เป็นโพสต์เสียเงิน 15 ดอลลาร์ สมาชิกจะเห็นพรีวิว แล้วตัดสินใจซื้อหากคิดว่ามีคุณค่า กลยุทธ์ "ชิมฟรี + จ่ายเพิ่มเพื่ออัปเกรด" แบบนี้ช่วยเพิ่มรายได้ได้ดี
เวลาตั้งราคา ให้คิดทั้งต้นทุนการผลิตคอนเทนต์และราคาตลาด ถ้าต่ำเกินไป จะทำให้คอนเทนต์ดูด้อยค่า ถ้าสูงเกินไป คนจะถอย ลองเริ่มที่ราคาต่ำหน่อย ทดสอบการตอบรับ แล้วค่อย ๆ ปรับขึ้น
แนวทางที่มีประสิทธิภาพที่สุด คือใช้ทั้งการสมัครฟรีและคอนเทนต์แบบเสียเงินร่วมกัน การสมัครฟรีช่วยให้ผู้ใช้กล้ากดติดตามโดยไม่ต้องตัดสินใจเรื่องเงินก่อน จากนั้นค่อยขายคอนเทนต์เสียเงินให้กลุ่มที่สนใจจริง ซึ่งทำให้สะสมฐานผู้ใช้ได้เร็วกว่าเปิดเก็บเงินตั้งแต่แรก
ตัวอย่างเช่น Ryan Kim Kefar เปิดให้กดติดตามแอคเคานต์เขาฟรี แต่โปรแกรมโภชนาการเชิงลึกและวิดีโอซ้อมแบบเฉพาะทางจะต้องจ่ายเพิ่ม วิธีนี้ช่วยให้ทั้งขยายฐานผู้ติดตามและยังรักษาความสามารถในการทำรายได้จากคอนเทนต์หลักไปพร้อมกัน
คอนเทนต์แนวฟิตเนสถือเป็นหนึ่งในหมวดไม่ 18+ ที่เติบโตเร็วที่สุดบน OnlyFans หากคุณเป็นเทรนเนอร์ โค้ชโยคะ หรือโภชนากร คุณสามารถนำเสนอ:
หัวใจสำคัญคือ ให้ “ความลึก” ที่แพลตฟอร์มฟรีอย่าง Instagram ให้ไม่ได้ ผู้ติดตามยอมจ่ายเงินเพราะอยากได้คำแนะนำเฉพาะตัว ไม่ใช่คอนเทนต์แนว “กำลังใจออกกำลังกาย” ทั่วไป
ศิลปินสามารถใช้ OnlyFans ทำคอร์สหรือการสอนแบบยืดหยุ่นได้ ต่างจากแพลตฟอร์มขายคอร์สแบบดั้งเดิม ตรงที่รูปแบบคอนเทนต์และความเป็นส่วนตัวจะยืดหยุ่นกว่า เช่น
คอนเทนต์สายศิลปะมักตั้งราคาได้สูง เพราะทักษะที่จับต้องได้มูลค่าเห็นชัด หากคุณมีฐานแฟนบน Instagram อยู่แล้ว การดึงคนที่สนใจจริงไปต่อที่ OnlyFans เพื่อดูสอนแบบเชิงลึก เป็นเส้นทางการเปลี่ยนแฟนฟรีเป็นแฟนจ่ายเงินที่เป็นธรรมชาติ
แทบทุกทักษะวิชาชีพสามารถหากลุ่มคนที่ยอมจ่ายเงินบน OnlyFans ได้ เช่น
ตอนเลือกนิช ให้คิด 3 อย่าง: ความลึกในสายที่คุณเชี่ยวชาญ ขนาดความต้องการของตลาด และความหนาแน่นของคู่แข่ง ยิ่งนิชเจาะจงมาก มักยิ่งสร้างกลุ่มผู้ใช้ที่พร้อมจ่ายเงินได้ง่าย
ตอนโพสต์คอนเทนต์ กดปุ่ม "New Post" แล้วเลือกได้ทั้งข้อความ รูปภาพ วิดีโอ และโพล โพสต์ที่ได้ผลมักมีองค์ประกอบเหล่านี้:
ข้อเสนอชัดเจนว่าคอนเทนต์นี้ช่วยอะไร: บอกตรง ๆ ว่าคอนเทนต์นี้แก้ปัญหาอะไร "5 เทคนิคเพิ่มแรงสควอต" น่าสนใจกว่า "วิดีโอฝึกของวันนี้"
ภาพและวิดีโอคุณภาพดี: ต่อให้สอนเชิงเทคนิค ก็ไม่ควรปล่อยให้ภาพหรือวิดีโอแตก/เบลอ วิดีโอที่ถ่ายและตัดต่อดี จะทำให้คอนเทนต์ดูมีมูลค่าสูงขึ้นทันที
ชวนให้มีปฏิสัมพันธ์: ปิดท้ายโพสต์ด้วยคำถาม หรือชวนให้คอมเมนต์ เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วม การพูดคุยคึกคักจะช่วยให้คอนเทนต์ถูกมองว่า “คุ้มค่า” มากขึ้น
ฟีเจอร์โพลบน OnlyFans มักถูกมองข้าม ทั้งที่จริงแล้วมีพลังมากในการเพิ่มความผูกพัน คุณสามารถใช้โพลถามว่า:
โพลไม่เพียงช่วยให้คนอยากมีส่วนร่วมมากขึ้น แต่ยังช่วยให้คุณเข้าใจความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และวางแผนคอนเทนต์ได้ตรงจุดมากขึ้น กำหนดเวลาปิดโพล (เช่น 3–7 วัน) เพื่อสร้างความรู้สึกเร่งด่วน จะช่วยเพิ่มอัตราการโหวต
OnlyFans มีปุ่มแชร์ไป Twitter ในตัว กดไอคอนรูปนกแล้วโพสต์ไปพร้อมกันได้เลย ตรงนี้สำคัญมากสำหรับการดึงคนเข้ามา—ผู้ติดตามคุณหลายคนอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณมีคอนเทนต์บน OnlyFans
แนวทางโปรโมตที่แนะนำ:
แต่อย่าลืมว่าบางแพลตฟอร์ม เช่น Instagram และ Facebook มีข้อจำกัดเรื่องการโปรโมตลิงก์ OnlyFans โดยตรง อาจต้องใช้คำอย่าง "ลิงก์อยู่ใน Bio" แทนการแปะลิงก์ตรง ๆ
หลังยืนยันตัวตนเสร็จ ไปที่หน้า "Add a Bank" เพื่อผูกบัญชีรับเงิน คุณต้องกรอก:
OnlyFans จะตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1–3 วันทำการ พอผูกสำเร็จ ก็เริ่มรับเงินจากแพลตฟอร์มได้เลย
แม้คุณจะใช้ OnlyFans แค่ในฐานะครีเอเตอร์ แพลตฟอร์มก็ยังอาจขอให้คุณเพิ่มบัตรเครดิต/เดบิตเพื่อยืนยันด้านความปลอดภัย จุดประสงค์หลักคือกันบัญชีปลอมและการทุจริต
ต้องเข้าใจก่อนว่า การเพิ่มบัตรไม่เท่ากับจะถูกหักเงินโดยอัตโนมัติ ถ้าคุณไม่ได้กดไปสมัครสมาชิกคนอื่น บัตรของคุณจะใช้เป็นแค่เครื่องมือยืนยันตัวตนเท่านั้น ไม่เกิดค่าใช้จ่าย
OnlyFans รองรับการเชื่อมกับกระเป๋า Web3 อย่าง MetaMask เพื่อรับชำระด้วยคริปโต ถ้ากลุ่มเป้าหมายของคุณมีคนใช้คริปโตเยอะ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการจ่ายเงิน
ไปที่แท็บ "Web3" แล้วเลือกประเภทกระเป๋า (เช่น MetaMask) และทำตามขั้นตอนเพื่อเชื่อมต่อ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสัดส่วนการจ่ายด้วยคริปโตยังถือว่าน้อย วิธีหลักยังเป็นบัตรและการโอนผ่านธนาคารเป็นหลัก
ถ้าคุณมีแผนจะทำหลายแอคเคานต์ในหลายสาย เช่น แอคหนึ่งทำฟิตเนส อีกแอคทำถ่ายภาพ การสลับล็อกอินด้วยเบราว์เซอร์ปกติอาจทำให้บัญชีถูกมองว่าเกี่ยวข้องกัน แพลตฟอร์มอาจตรวจเจอการล็อกอินจากอุปกรณ์เดียวกัน แล้วจำกัดบัญชีได้
เบราว์เซอร์ลายนิ้วมือ MasLogin จะแยก “สภาพแวดล้อมเบราว์เซอร์” ให้แต่ละบัญชี เหมือนใช้อุปกรณ์คนละเครื่อง จำลองลายนิ้วมือเบราว์เซอร์ต่างกัน ทำให้บัญชีแต่ละตัวถูกมองว่าเป็นคนละคนอย่างสิ้นเชิง สำคัญมากสำหรับครีเอเตอร์ที่ต้องการดูแลหลายสายธุรกิจพร้อมกัน
![4A_)]2P@B1)_HMW(]EI2]XY.png](https://masmate.service-online.cn/production/files/0/1764742444996737691_73124.png)
นอกจาก OnlyFans ครีเอเตอร์ส่วนใหญ่มักทำ Instagram, Twitter, YouTube ควบคู่ไปด้วย การใช้ MasLogin จะช่วย:
เช่น คุณอาจใช้โปรไฟล์เบราว์เซอร์หนึ่งสำหรับดูแลทุกแอคเคานต์สายฟิตเนส (OnlyFans, Instagram, Twitter) แล้วใช้โปรไฟล์อีกอันสำหรับทุกแอคเคานต์สายถ่ายภาพ ทำให้ข้อมูลและความเสี่ยงถูกแยกจากกันชัดเจน

ใน MasLogin ให้สร้าง “โปรไฟล์เบราว์เซอร์” แยกสำหรับแต่ละบัญชี OnlyFans ระหว่างตั้งค่าให้กำหนด:
เมื่อทำแบบนี้ บัญชีแต่ละตัวจะถูกมองว่าใช้งานจากอุปกรณ์และผู้ใช้คนละคนจริง ๆ ลดโอกาสถูกเชื่อมโยงและโดนแบนอย่างมาก สำหรับครีเอเตอร์ที่อยากขยายไปหลายนิช กลยุทธ์การแยกแบบนี้ช่วยปกป้องธุรกิจคุณได้ดี
เคล็ดลับเกี่ยวกับการจัดการหลายบัญชีเพิ่มเติม ดูได้จาก ศูนย์ช่วยเหลือ MasLogin
ก่อนจะสมัครสมาชิกใคร คนส่วนใหญ่มักเช็กโปรไฟล์ละเอียด บัญชีที่ว่างเปล่าหรือข้อมูลไม่ครบจะทำให้คนไม่มั่นใจ คุณควรมีอย่างน้อย:
ลองนึกว่าคุณเป็นคนแปลกหน้าที่เจอบัญชีคุณครั้งแรก ถ้าบัญชีนี้ขึ้นชื่อว่าต้องจ่ายเงิน คุณจะอยากเห็นอะไรเพื่อประกอบการตัดสินใจ? โปรไฟล์ที่ครบถ้วนคือก้าวแรกในการสร้างความเชื่อใจ
เพราะ OnlyFans ใช้โมเดลสมาชิก คุณจึงต้อง “ให้คุณค่า” อย่างต่อเนื่อง ถ้าคุณโพสต์หนักทีเดียวแล้วหายไปยาว ๆ สมาชิกจะเลิกต่ออายุได้ง่าย แนะนำให้:
คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ การโพสต์บทความหรือวีดีโอสอนเชิงลึกสัปดาห์ละ 1 ชิ้น มักมีค่ามากกว่าการโพสต์คอนเทนต์ผิวเผินทุกวัน
ครีเอเตอร์ OnlyFans ที่ประสบความสำเร็จมักเก่งเรื่องสร้างความสัมพันธ์กับสมาชิก ตอบคอมเมนต์และข้อความอย่างเหมาะสม ทำให้ผู้ติดตามรู้สึกว่า "มีตัวตน" และได้รับการใส่ใจ คุณอาจ:
แต่อย่าลืมตั้งขอบเขต ถ้ามีคนต้องการเวลาคุณแบบตัวต่อตัวมากเป็นพิเศษ อาจพิจารณาทำแพ็กเกจ VIP ราคาแพงกว่าหรือกำหนดขอบเขตบริการให้ชัด เพื่อไม่ให้ภาระงานส่วนตัวมากเกินไปจนกระทบการสร้างคอนเทนต์หลัก
การยืนยันตัวตนบน OnlyFans มักใช้เวลาประมาณ 24–48 ชั่วโมง แต่บางกรณีอาจยาวถึง 72 ชั่วโมง ระหว่างนี้คุณสามารถดูคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มได้ แต่ยังโพสต์ไม่ได้ ตรวจให้แน่ใจว่าเอกสารยืนยันตัวตนชัดเจน อ่านง่าย และข้อมูลตรงกับที่ใช้สมัคร จะช่วยให้อนุมัติเร็วขึ้น
แพลตฟอร์มจะหัก 20% ของรายได้เป็นค่าบริการ คุณจะได้รับจริง 80% เช่น ถ้าสมาชิกจ่ายค่าสมาชิก 10 ดอลลาร์ต่อเดือน คุณจะได้ 8 ดอลลาร์ ตัวเลขนี้ถือว่าอยู่ในระดับกลางเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มคอนเทนต์อื่น และถ้าเทียบกับส่วนแบ่งโฆษณาของ YouTube (ครีเอเตอร์ได้ราว 55%) ถือว่าครีเอเตอร์ได้ส่วนแบ่งสูงกว่า
ตามทฤษฎีทำได้ แต่เงื่อนไขของแพลตฟอร์มยังค่อนข้างคลุมเครือ ถ้าคุณอยากทำหลายบัญชีที่เนื้อหาแตกต่างกันชัดเจน (เช่น บัญชีหนึ่งสายฟิตเนส อีกบัญชีสายถ่ายรูป) ควรใช้เครื่องมืออย่าง MasLogin เพื่อแยกสภาพแวดล้อมของแต่ละบัญชี อย่าล็อกอินหลายบัญชีจากอุปกรณ์และ IP เดียวกันบ่อย ๆ เพราะระบบอาจมองว่าเป็นการใช้งานผิดปกติ
ยอดถอนขั้นต่ำของ OnlyFans คือ 20 ดอลลาร์ หลังยื่นคำขอถอนมักใช้เวลา 3–7 วันทำการ ขึ้นอยู่กับธนาคารและประเทศของคุณ แนะนำให้ผูกกับบัญชีธนาคารหลักที่น่าเชื่อถือ หลีกเลี่ยงบัตรเสมือนหรือธนาคารที่ไม่รองรับ เพื่อป้องกันปัญหาถอนเงินไม่ผ่าน
กุญแจหลักคือทำตามกฎแพลตฟอร์ม: อย่าโพสต์คอนเทนต์ผิดกฎหมาย อย่าละเมิดลิขสิทธิ์ อย่าทำธุรกรรมที่เข้าข่ายหลอกลวง และอย่ามีพฤติกรรมผิดปกติ เช่น โพสต์รัว ๆ ในระยะเวลาสั้นมาก เปลี่ยนราคาค่าสมาชิกหนัก ๆ บ่อย ๆ หรือใช้บอทปั่นสถิติ ถ้าคุณทำหลายบัญชี ควรใช้เครื่องมืออย่าง MasLogin เพื่อแยกการใช้งานอย่างเป็นระบบ สามารถดูข้อมูลด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับหลายบัญชีเพิ่มเติมได้ที่ ศัพท์เฉพาะของ MasLogin
โครงร่าง